วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

สถานที่สำคัญในมิวสิควีดีโอ


สถานที่สำคัญในมิวสิควีดีโอ
วิหารพาร์เธนอน 1วิหารพาร์เธนอน 2
วิหารพาร์เธนอนเป็นวิหารที่ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่เทพีอาธีนาซึ่ง ซึ่งเป็น เทพีประจำเมืองเอเธนส์แต่ไหนแต่ไรมา คำว่า “พาร์เธนอน” แปลว่าห้องแห่งเทพีพหรมจารี (Hall of the virgin goddess) วิหารโบราณแห่งนี้มีความเก่าแก่มากกว่า 2,600 ปี ตั้งอยู่อะโครโปลิส (แปลว่าจุดสูงสุดของเมือง) ใจกลางกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ซึ่งแม้ว่าวิหารพาร์เธอนอนจะเหลือเพียงแต่ซากปรักหักพัง แต่เราก็ยังสามารถที่จะจินตนาการถึงความยิ่งใหญ่ในอดีตได้เป็นอย่างดี
เนินอะโครโปลิสที่เป็นที่ตั้งของวิหารพาร์เธนอนนี้อยู่บนเนินเขาพัลลาส(Pallas) ซึ่งสูงจากพื้นราบ 60-70 เมตร พื้นที่บนยอดเขาประมาณ 45,000 ตารางเมตร ตั้งแต่ประมาณศตวรรษที่ 14 ก่อน คริสต์กาล (1,400 ปี ก่อน คริสต์กาล) ก็มีการสร้างพระราชวังบนเนินแห่งนี้แล้ว โดยที่วิหารพาร์เธนอนที่เห็นเป็นซากอยู่ในปัจจุบันเป็นวิหารรุ่นที่ 3 ที่สร้างทับซ้อนบนรากฐานเดิมของวิหารรุ่นที่ 2 ก่อนหน้า วิหารรุ่นแรกนั้นสร้างเมื่อประมาณ 500 กว่าปี ก่อนคริสต์กาล และได้พังทลายลงไป จึงได้มีการเริ่มสร้างรุ่นที่ 2 ขึ้นในปี 490 ก่อนคริสต์กาล แต่เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเพราะได้ถูกกองทัพของพวกเปอร์เซียเผาทำลายไปอีกครั้งหนึ่ง ตั้งแต่ยังก่อสร้างไม่เสร็จดี   แต่ว่าชาวเอเธอส์ก็ยังไม่ละความพยายามในการสร้าง วิหารพาร์เธนอนจึงเริ่มก่อสร้างอีกครั้งเป็นรุ่นที่ 3  ประมาณช่วงปี 447 ก่อน ค.ศ. ซึ่งนับเวลาจนกระทั่งถึงตอนนี้ก็ ประมาณ 2,500 ปี เห็นจะได้
ตำแหน่งที่ตั้ง วิหารพาร์เธนอน ประเทศ กรีซ
วิหารพาร์เธนอนเป็นสถาปัตยกรรมแบบดอริคที่งดงามสมบูรณ์แบบทั้งโครงสร้างและสัดส่วน และภาพสลักที่ประดับทับหลังเหนือหัวเสา แม้ปัจจุบันจะเหลือเพียงแค่โครง แต่ก็ไม่ยากที่จะจินตนาการว่าในอดีตตอนที่สร้างเสร็จใหม่ๆ วิหารพาร์เธนอนนี้จะสวยงามเพียงใด
เทพีอธีนาแห่งวิหารพาร์เธนอน
เทพีอธีนาแห่งวิหารพาร์เธนอน
วิหารพาร์เธนอนถูกสร้างขึ้นด้วยหินอ่อน ขนาดยาวประมาณ 70 เมตร กว้าง 30 เมตร ด้านกว้างประกอบด้วยด้วยเสา 8 ต้น ด้านยาว 17 ต้น เสาแต่ละต้นสูง 10.5 เมตร ลักษณะของเสาเป็นลักษณะเฉพาะคือจะปล่องออกตรงกลางซึ่งเส้นผ่านศูนย์กลางเท่ากับ 2 เมตร และ ตรงปลายทั้งสองด้านเส้นผ่านศูนย์กลางเท่ากับ 1.5 เมตร โดยในการก่อสร้างเสาแต่ต้น ชาวเอเธนส์จะแบ่งเสาเป็นข้อๆ เหมือนเค๊ก แล้วมาวางซ้อนกัน 10 -12 ชั้น
อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าวิหารพาร์เธนอนที่เห็นอยู่ในปัจจุบันถูกสร้างขึ้นเป็นรุ่นที่ 3 โดยมันถูกสร้างเมื่อปี 447 ก่อน ค.ศ. และไปแล้วเสร็จในปี 438 ก่อน ค.ศ. แต่ก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์เหมือนตามที่ผู้สร้างตั้งใจไว้ จึงใช้เวลาอีก 5 ปีในการแกะสลักรูปปั้นเพื่อไปประดับ วิหารพาร์เธนอนอีก รวมระยะเวลาที่ใช้ทั้งหมด ก็ 14 ปี
ภาพสลักประดับทับหลังเหนือหัวเสาและหน้าบันไดนั้น เป็นภาพที่มีความประณีตเป็นเลิศ โดยภาพแต่ละภาพจะเป็นเรื่องราวของชัยชนะของชาวเอเธนส์ในสงครามต่างๆ ทั้งในสงครามที่เป็นเทพนิยาย และสงครามที่เกิดขึ้นจริง เช่นทางด้านทิศเหนือของ วิหารพาร์เธนอน เป็นสงครามระหว่างชาว เอเธนส์และทรอย (มีการมาทำเป็นหนังเรื่องทรอยที่นำแสดงโดย แบรด พิต) ซึ่งสงครามที่ว่าเกิดขึ้นในช่วง ศตวรรษที่ 16 ก่อน ค.ศ. ส่วนด้านทิศใต้เป็นภาพสงครามระหว่าง เซนทอร์(สัตว์ในตำนาน มีลักษณะครึ่งคนครึ่งม้า) กับชาว ลาพิธ  ส่วนในด้านหน้าจั่วทิศตะวันออกเป็นภาพของกำเนิดของเทพีอธีนา ที่เกิดจากเศียรของมหาเทพอย่าง ซุส (Zeus) ส่วนหน้าจั่วด้านตะวันตกของ วิหารพาร์เธนอน เป็นภาพการชิงชัยระหว่าง โพไซดอน และ อธีนา โดยภาพมนด้านหน้าจั่วทั้งสองด้าน เป็นภาพที่ถูกทำขึ้นมาใหม่เพื่อทดแทนของเดิม ซึ่งภาพของจริงนั้น ท่านลอร์ดเอลจิน เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำอาณาจักรไบแซนไทน์ระหว่างปี ค.ศ. 1799 – 1803 ได้นำไปอังกฤษโดยความยินยอมของสุลต่านแห่งคอนสแตติโนเปิล ซึ่งมีอำนาจเหนือ เอเธนส์ในขณะนั้น
ภายในห้องบูชาแห่ง วิหารพาร์เธนอน เคยมีรูปเทพีอธีนาขนาดมหึมาประดิษฐานอยู่ จากบันทึกประวัติศาสตร์ของพอซาเนียส และรูปจำลองเทพี อธีนาขนาดเล็ก ทำให้รู้ว่ารูปปั้นเทีอธีนานั้นประทับยืนบนแท่นสูงประมาณ 12 เมตร โครงทำจากไม้ ส่วนเนื้อหนังที่โผล่พ้นเสื้อผ้าออกมานั้นบุด้วยงาช้าง ส่วนผ้านั้นก็บุด้วยทองคำบริสุทธิ์ทีหนักกว่า 1,150 กรัม ส่วนที่ฐานของรูปปั้นก็สลักเป็นภาพตำนานกำเนิดแพนโดรา ซึ่งรูปปั้นอธีนานี้ก็หายสาปสูญไปจาก วิหารพาร์เธนอน ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 5 ขณะอยู่ภายใต้การยึดครองของอาณาจักรไบแซนไทน์  ปัจจุบันในห้องบูชาของ วิหารพาร์เธนอน เหลือแต่ฐานขนาด 4 x 8 เมตร ตรงกลางมีรูสี่เหลี่ยม
สำหรับเสียบแกนรูปปั้นเท่านั้น
วิหารพาร์เธนอน3
วิหารพาร์เธนอนอันเก่าแก่แห่งนี้ได้ยืนหยัดผ่านกระแสแห่งความเปลี่ยนแปลงมาหลายยุคหลายสมัย ผ่านร้อนผ่านหนาว สันติและสงคราม การบูชาและการฆ่าฟัน ความรุ่งเรืองและความเสื่อม การบูรณะและ
การบูรณะวิหารพาร์เธนอน
การบูรณะวิหารพาร์เธนอนในปี 2010
ความพินาศ ตั้งแต่สงครามกับชาวเปอร์เซีย (ปี 480 ก่อน ค.ศ.) ซึ่งพาร์เธนอนรุ่นที่ 2 ถูกเผาพินาศ สงครามระหว่าง กรีกและโรมัน (ปี 86 ก่อน ค.ศ.) ซึ่งนักรบชาวเอเธนส์ถูกสังหารหมู่บน วิหารพาร์เธนอน
วิหารพาร์เธนอน ผ่านการเปลี่ยนแปลงความเชื่อทางศาสนาที่เปลี่ยนจาก การบูชาเทพเจ้าไปสู่โบสถ์คริสต์ศาสนา และในสมัยอาณาจักรไบแซนไทน์ วิหารพาร์เธนอน ได้ถูกเปลี่ยนเป็นป้อมปราการที่มั่นคงของพวกแฟรงค์และละติน และถูกเปลี่ยนเป็นสุเหร่าในช่วงยุคของพวกเติร์ก ในขณะที่บางส่วนของ วิหารพาร์เธนอน ก็ถูกเปลี่ยนเป็นคลังเก็บกระสุนปืนใหญ่ จนทำให้เกิดการระเบิดทำให้ตัวของ วิหารพาร์เธนอน ได้รับความเสียหายจนกลายเป็นซากปรักหักพัง ในปี 1687 ทั้งนี้การบูรณะวิหารพาร์เธนอนได้เริ่มทำตั้งแต่ปี 1841 และมาเสร็จสมบูรณ์เมื่อปี 1900
วิหารพาร์เธนอน ถูกบูรณะครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 2004 เนื่องมาจากที่ประเทศกรีซได้รับเลือกเป็นเจ้าจัดกีฬาโอลิมปิก ซึ่งมีพิธีเปิดที่วิหารพาร์เธนอน
ในปี ค.ศ. 1987 UNESCO ได้ประกาศให้ วิหารพาร์เธนอน เป็นมรดกโลก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น